เมื่อถึงเวลาต้องแก้ปัญหาหน้างานโดยการติดตั้งฉนวนกันความร้อน ไม่ว่าจะเป็นแบบถอดได้หรือแบบทั่วไปก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ควรทราบในการตัดสินใจเลือกฉนวน ควรคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
1. สถานที่ติดตั้งฉนวนกันความร้อน
เป็นการใช้งานฉนวนภายในหรือภายนอกอาคาร มีโอกาสสัมผัสยูวีและน้ำหรือไม่
ในการติดตั้งจำเป็นต้องมีระบบป้องกันฉนวนเสียหายจากสภาพแวดล้อมหรือไม่
การดูแลรักษาหรือการซ่อมบำรุง มีความยากง่ายเพียงใด เช่น ฉนวนบนที่สูง ฉนวนในที่แคบ
2. พื้นที่ทั้งหมดของส่วนที่ต้องมีฉนวน
ฉนวนต้องมีรูปทรงแบบไหน เช่น แผ่นรูป โค้งเข้ารูปท่อ หรือรูปทรงอื่นๆ
แบบหรือ drawing ของอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งฉนวนมีครบถ้วนเพื่อลดความผิดพลาดหรือไม่
ปริมาณของฉนวนที่ต้องการตามแบบ มีความชัดเจน ถอดออกมาได้ใกล้เคียงกับการทำงานจริงหรือไม่
3. เงื่อนไขของอุณหภูมิที่ต้องการ
ทราบอุณหภูมิเฉลี่ยที่ต้องการภายหลังการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหรือไม่
อุณหภูมิสูงสุดที่ฉนวนต้องทนได้เมื่อมีการใช้งานจริงเป็นระยะเวลานานอยู่ที่เท่าไร
ต้องการสัมประสิทธิ์การนำความร้อน (Thermal Conductivity) ที่ช่วงอุณหภูมิใดเป็นพิเศษหรือไม่
4. การเตรียมพื้นผิวสำหรับติดตั้งฉนวน
สามารถติดตั้งฉนวนได้เลยหรือต้องทำความสะอาดพื้นผิวก่อน
จำเป็นต้องเตรียมผิว เช่น กำจัดสนิม ทาสีกันความร้อน ก่อนติดฉนวนหรือไม่
พื้นผิวที่ติดฉนวนมีโอกาสเกิดการผุกร่อน (Corrosion Under Insulation: CUI) หรือไม่
5. ประเภทของฉนวนที่เหมาะสมกับงาน
จำเป็นต้องใช้ฉนวนกันความร้อนแบบถอดได้ในบางจุดหรือทุกจุดหรือไม่
ความหนาแน่นของฉนวนเป็นแบบทั่วไป หรือต้องเป็นฉนวนความหนาแน่นสูง
อายุการใช้งานของฉนวนที่ต้องการหรือแผนในการเปลี่ยนฉนวนทุกกี่ปี
6. ความหนาของฉนวนตามหลักเศรษฐศาสตร์
ความหนาที่ต้องการอยู่ในงบประมาณที่วางไว้หรือไม่
ระยะเวลาคืนทุนหลังการติดตั้งฉนวนอยู่ในช่วงที่รับได้หรือไม่
กรณีที่ความหนาฉนวนต้องลดลงเนื่องจากพื้นที่หน้างานแคบหรือมีระยะห่างน้อยเกินไป การใช้ฉนวนพิเศษเช่น Nano Aerogel Insulation จะคุ้มค่ากว่าแบบทั่วไปหรือไม่
7. ข้อมูลที่จำเป็นจากผู้ผลิตหรือจำหน่ายฉนวน
ค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อน (Thermal Conductivity)
ความหนาแน่นของฉนวนกันความร้อน (Bulk Density)
เอกสารความปลอดภัยของฉนวน (Material Safety Datasheet: MSDS)