หากเราเข้าใจประเด็นสำคัญในการเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนสำหรับงานอุตสาหกรรม จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการดำเนินโครงการ เพราะทำให้สามารถลงทุนทำครั้งเดียวจบในงบประมาณที่จัดสรรไว้ ลองมาดูกันว่าพารามิเตอร์สำคัญของฉนวนกันความร้อนอุตสาหกรรมมีอะไรบ้าง
1. ความหนาที่เหมาะสม (Effective Thickness)
ความหนาฉนวนที่เหมาะสมไม่ใช่ความหนาที่ผู้จำหน่ายมีหรือต้องการขายฉนวนให้กับเรา แต่ความหนาที่เหมาะสมคือความหนาของฉนวนที่เลือกใช้แล้วแก้ปัญหาให้เราได้ในงบประมาณที่เรามี โดยในส่วนนี้เราสามารถแจ้งให้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านฉนวนคำนวณความหนาที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของเราได้ โดยในการคำนวนจะใช้ค่า thermal conductivity ของฉนวน ร่วมกับอุณหภูมิผิวของอุปกรณ์ที่ต้องหุ้มฉนวน และอุณหภูมิห้องหรือ ambient temperature ก็จะช่วยให้เลือกความหนาฉนวนที่เหมาะสมได้
2. ประสิทธิภาพทางความร้อน (Thermal Efficiency)
ฉนวนกันความร้อนที่ดีต้องมีคุณสมบัติในการลดการแผ่รังสีความร้อนหรือการถ่ายเทความร้อนได้มาก โดยที่ไม่ต้องใช้ความหนาฉนวนมากเกินไป ซึ่งประสิทธิภาพทางความร้อนนี้สามารถอธิบายหรือบอกให้เข้าใจได้ในรูปร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ จากสมการต่อไปนี้
Thermal Efficiency = Qwithout insulation – Qwith insulation x 100
Qwithout insulation
3. อายุการใช้งานของฉนวนกันความร้อน (Service Life)
ราคาของฉนวนกันความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจในการเลือกใช้ฉนวน แต่ส่วนใหญ่มักมองที่ราคาแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้มองถึงความคุ้มค่าหรืออายุการใช้งานของฉนวนที่เลือกมา เช่น เลือกฉนวนราคา 100,000 บาท แต่ต้องเปลี่ยนทุก 3 ปี เทียบกับฉนวนราคา 200,000 บาท แต่อายุการใช้งาน 10 ปี จะเห็นได้ว่าหากเราเอาอายุการใช้งานมาคิดร่วมกับต้นทุนฉนวนด้วย ก็จะตัดสินใจได้ว่าฉนวนแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน จุดที่ทำให้ฉนวนมีอายุการใช้งานยาวนานหรือทนทานได้แก่ ความหนาแน่น ความทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี ความสามารถในการกันน้ำหรือของเหลว เป็นต้น