อีกพารามิเตอร์หนึ่งที่สำคัญมากเวลาต้องเลือกใช้ฉนวนให้เหมาะกับงานก็คือค่า Thermal Conductivity (ค่าการนำความร้อน) ซึ่งเป็นค่าที่แสดงถึงความสามารถของวัสดุในการถ่ายเทความร้อนผ่านตัวมันเอง ค่านี้บ่งบอกถึงการที่พลังงานความร้อนเคลื่อนที่จากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งภายในวัสดุผ่านกระบวนการนำความร้อน หรือกล่าวได้ว่า Thermal Conductivity คือค่าที่ช่วยประเมินประสิทธิภาพของวัสดุในการถ่ายเทความร้อน โดยฉนวนที่มีค่าการนำความร้อนต่ำ (Low Thermal Conductivity) จะสามารถป้องกันการสูญเสียหรือรับความร้อนได้ดีกว่าฉนวนที่มีค่าการนำความร้อนสูง (High Thermal Conductivity) จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการลดอุณหภูมิให้ลงมาได้มากที่สุด และมีเรื่องน่ารู้ที่สำคัญดังนี้
ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass): 0.041 – 0.125 W/m·K
ฉนวนเซรามิค (Ceramic Fiber): 0.06 – 0.17 W/m·K
ฉนวนใยหิน (Mineral Wool): 0.05 – 0.18 W/m·K
ฉนวนแอโรเจล (Aerogel): 0.013 – 0.066 W/m·K (ต่ำมาก)
ข้อควรทราบ หากอ้างอิงตามมาตรฐาน ATSM C335 จะมีการแนะนำค่าการนำความร้อนสูงสุด (Max Thermal Conductivity) ของฉนวนกันความร้อน ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ไม่ควรเกินกว่า 0.065 W/m·K และที่อุณหภูมิ 450 องศาเซลเซียส ไม่ควรเกินกว่า 0.073 W/m·K