1. ฉนวนกันความร้อนของทาง NTI ต่างกับฉนวนที่ใช้ตามบ้านอย่างไร ตอบ – ฉนวนกันความร้อนของทาง NTI เป็นฉนวนที่ถูกออกแบบและผลิตมาเพื่อใช้ลดความร้อนหรือป้องกันความร้อนสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรม จึงมีคุณภาพและราคาสูงกว่าฉนวนกันความร้อนแบบที่ใช้สำหรับอาคารและที่พักอาศัยทั่วไป เนื่องจากฉนวนจะถูกติดตั้งกับพื้นผิวที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ (200-900 C ) ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายๆปี ในขณะที่ฉนวนกันความร้อนตามอาคารบ้านเรือน จะถูกใช้กับอุณหภูมิที่เกิดจากความร้อนแผ่ของแสงแดด ระหว่าง 40-60 C เท่านั้น 2. ความหนามาตรฐานของฉนวนกันความร้อน ZAVE จาก NTI ตอบ – ฉนวนกันความร้อนจาก NTI มีความหนาเริ่มต้นที่ 4.0 mm, 6.0 mm, 10.0 mm, 12.0 mm, 25 mm และ 50 mm หรือขนาดสั่งพิเศษคือ 100 mm สำหรับความหนาแน่น (density : kg/m3) ก็จะมีค่าที่ 130, 160 และ […]
การเลือกฉนวนกันความร้อนสำหรับเครื่องจักร
การถ่ายเทความร้อนโดยการพา ตามที่เราได้ทราบกันแล้วว่า ความร้อนมีการถ่ายเทได้ 3 รูปแบบ คือ โดยการพา (convection of heat transfer) โดยการแผ่ (radiation of heat transfer) โดยการนำ (conduction of heat transfer) หากเรามีความรู้ในทฤษฎีข้างต้นอยู่บ้าง ก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องความร้อนและการถ่ายเทความร้อนพร้อมที่จะนำไปประยุกต์ใช้สำหรับการเลือกฉนวนกันความร้อนหรืองานหุ้มฉนวนประหยัดพลังงาน เพราะวิธีการเลือกฉนวนกันความร้อนนั้น หากเลือกให้หนาที่สุดโดยปราศจากการคำนวณ ก็จะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี นั่นคือเสียเงินเพิ่มขึ้นเพราะความหนาฉนวนที่มากเกินจำเป็น และเสียเงินเพิ่มขึ้นกรณีที่ฉนวนหนาเกินไปจนส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมในเครื่องจักรและชิ้นงาน เพราะฉนวนกันความร้อนที่หนามากเกินไปจะทำให้อุณหภูมิภายในเครื่องจักรสูงขึ้นมาก ซึ่งอาจจะมีโอกาสส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับชิ้นงานและการทำงานของเครื่องได้ แต่หากเลือกฉนวนกันความร้อนที่ความหนาเหมาะสมได้ ก็จะทำให้ลดการสูญเสียความร้อนที่ผิวและประหยัดค่าพลังงานได้ตามที่ต้องการ การพาความร้อน (Convection of Heat Transfer) เมื่อของไหลสัมผัสกับผิวของวัตถุที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันก็จะมีการแลกเปลี่ยนพลังงานความร้อนระหว่างของไหลกับวัตถุ กระบวนการแลกเปลี่ยนความร้อนนี้เรียกว่า การถ่ายเทความร้อนโดยการพา หรือการพาความร้อน กระบวนการพาความร้อนดังกล่าวนี้เป็นปรากฏการณ์พื้นๆ แต่กลไกของการถ่ายเทความร้อนนั้นซับซ้อนมาก จึงจะไม่กล่าวถึงวิธีการวิเคราะห์ แต่จะเสนอกลไกและสมการหลักๆ ที่สามารถใช้คำนวณหาอัตราการพาความร้อนจากส่วนย่อยๆ ของระบบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบที่ใช้ให้ความร้อนและใช้ระบายความร้อน การถ่ายเทความร้อนโดยการพา หรือการพาความร้อนนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ การพาความร้อนแบบอิสระ (free convection) […]
วิธีเลือกฉนวนกันความร้อนสำหรับเครื่องจักร
ปัจจุบันลูกค้าหรือโรงงานต่างๆที่ต้องการหุ้มฉนวนกันความร้อนสำหรับเครื่องจักรในโรงงานเพื่อการประหยัดค่าพลังงาน เช่น เครื่องฉีดพลาสติค เครื่องอบชิ้นงาน เครื่องทำความร้อน มีทางเลือกในการใช้ฉนวนกันความร้อนที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดของวัสดุและฉนวนที่นำมาตัดเย็บเป็นฉนวนกันความร้อนแบบถอดได้ ว่าแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัด หรือความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง หลักเกณฑ์ในการเลือกฉนวนกันความร้อนหรือฉนวนประหยัดพลังงานสำหรับเครื่องจักร ต้องตัดเย็บจากวัสดุกันความร้อนที่ไม่มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน (asbestos) ฉนวนกันความร้อนควรมีความหนาแน่นขั้นต่ำ 160K และมีความบริสุทธิ์ที่ร้อยละ 98 สัมประสิทธิ์ต้านทานความร้อนของฉนวนโดยเฉลี่ยควรอยู่ที่ 0.078 Wmk at 300 C ผ้าและฉนวนทนความร้อนต้องทนต่ออุณหภูมิผิวต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 150% ของอุณหภูมิผิวที่ใช้งานจริง เช่นที่ผิวชิ้นงานมีค่า 300C ฉนวนต้องทนอุณหภูมิต่อเนื่องได้อย่างต่ำ 450C วัสดุที่นำมาตัดเย็บเป็นฉนวนทนความร้อนหรือฉนวนประหยัดพลังงาน ควรมี data sheets, หรือ MSDS ที่ออกให้หรือรับรองโดยสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ ต้องเป็นระบบหรือรูปแบบที่ถอดใส่ได้สะดวก โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ สามารถถอดและใส่หรือใช้ซ้ำได้หลายครั้ง คุ้มค่ากับการลงทุน มี ROI หรือจุดคุ้มทุนที่สามารถคำนวณหรือวัดผลได้จริง อย่างสมเหตุสมผล เหตุผลที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไว้วางใจฉนวนกันความร้อนจากทาง NTI มีตราสินค้าที่เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศอย่าง ZAVE™, HEATAWAY™, FIREBLOK™ เป็นผู้บุกเบิกและเชี่ยวชาญด้านการออกแบบติดตั้งฉนวนกันความร้อนแบบถอดได้หรือฉนวนประหยัดพลังงาน เป็นรายแรกๆในเมืองไทย ที่ใช้วัสดุกันความร้อนจาก HKO Germany […]